เรื่องโทษของการ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน.. |
1. กรณีเก็บปืนแบบแยกปืนใส่กล่อง ล็อคกุญแจ เวลาไปซ้อมยิงปืน หรือเคลื่อนย้ายปืนนั้น ตามกฎหมายไม่ถือว่าเป็นการ
พกพาอาวุธปืน เพราะการพกพาที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายนั้นต้องเป็นไปในลักษณะที่สามารถหยิบปืนขึ้นมาใช้ได้ทันท่วงที ซึ่ง
กรณีเช่นนี้มีคำชี้ขาดของอัยการสูงสุด และคำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าไม่เป็นความผิดฐานพกพาอาวุธปืน นอกจากนี้
ยังมีหนังสือเวียนของกองวิจัยและวางแผน ส่วนราชการกรมตำรวจ ที่ 0503 (ส)/27663 ลงวันที่ 30 กันยายน 2525 เรื่อง การปฏิบัติ
เกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถาน ซึ่งวางแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานตำรวจในการจับกุม
ผู้ที่พกพาอาวุธปืนซึ่งสอดคล้องกับคำชี้ขาดของอัยการสูงสุด และคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ที่กระทู้ปักหมุดด้านบน
ลองค้นหาดูนะครับ
2. ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยวางหลักเกี่ยวกับเรื่องการครอบครองอาวุธปืนไว้แล้วว่าการครอบครองปืนที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายนั้น
ต้องเป็นการครอบครองโดยมีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน แต่กรณีตามตัวอย่างที่เจ้าของกระทู้ยกมานั้นเห็นได้ว่าปืนก็ถูกเก็บรักษาไว้ภายในบ้าน
และสาเหตุที่ภรรยาต้องนำปืนออกมาใช้ก็เพื่อป้องกันภยันตรายที่มาถึงตัว ซึ่งการใช้ปืนในลักษณะดังกล่าวเป็นการนำมาใช้ชั่วคราวเพื่อป้อง
กันภยันตรายเท่านั้นมิได้มีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน จึงไม่มีความผิดฐานครอบครองปืนผิดมือครับ
ถ้าอยากค้นหาคำพิพากษาฎีกาเกี่ยวกับอาวุธปืนเพิ่มเติมก็ลองค้นหาดูที่เว็บไซต์ของศาลฎีกานะครับ
ตามนี้ http://www.deka2007.supremecourt.or.th/deka/web/search.jsp
พกพาอาวุธปืน เพราะการพกพาที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายนั้นต้องเป็นไปในลักษณะที่สามารถหยิบปืนขึ้นมาใช้ได้ทันท่วงที ซึ่ง
กรณีเช่นนี้มีคำชี้ขาดของอัยการสูงสุด และคำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าไม่เป็นความผิดฐานพกพาอาวุธปืน นอกจากนี้
ยังมีหนังสือเวียนของกองวิจัยและวางแผน ส่วนราชการกรมตำรวจ ที่ 0503 (ส)/27663 ลงวันที่ 30 กันยายน 2525 เรื่อง การปฏิบัติ
เกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณสถาน ซึ่งวางแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานตำรวจในการจับกุม
ผู้ที่พกพาอาวุธปืนซึ่งสอดคล้องกับคำชี้ขาดของอัยการสูงสุด และคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ที่กระทู้ปักหมุดด้านบน
ลองค้นหาดูนะครับ
2. ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยวางหลักเกี่ยวกับเรื่องการครอบครองอาวุธปืนไว้แล้วว่าการครอบครองปืนที่จะเป็นความผิดตามกฎหมายนั้น
ต้องเป็นการครอบครองโดยมีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน แต่กรณีตามตัวอย่างที่เจ้าของกระทู้ยกมานั้นเห็นได้ว่าปืนก็ถูกเก็บรักษาไว้ภายในบ้าน
และสาเหตุที่ภรรยาต้องนำปืนออกมาใช้ก็เพื่อป้องกันภยันตรายที่มาถึงตัว ซึ่งการใช้ปืนในลักษณะดังกล่าวเป็นการนำมาใช้ชั่วคราวเพื่อป้อง
กันภยันตรายเท่านั้นมิได้มีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน จึงไม่มีความผิดฐานครอบครองปืนผิดมือครับ
ถ้าอยากค้นหาคำพิพากษาฎีกาเกี่ยวกับอาวุธปืนเพิ่มเติมก็ลองค้นหาดูที่เว็บไซต์ของศาลฎีกานะครับ
ตามนี้ http://www.deka2007.supremecourt.or.th/deka/web/search.jsp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น